การตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล นั่นเอง ทำให้สามารถเข้าถึงลูกค้าได้จำนวนมาก แต่ยังคงเข้าถึงลูกค้าแบบเฉพาะเจาะจงรายบุคคล
Personalized Marketing เป็นกลยุทธ์การทำการตลาดรูปแบบหนึ่ง ที่ได้มีการทำกันมานานแล้ว ซึ่ง Personalized Marketing หรือ การทำการตลาดแบบเฉพาะบุคคลนั้น จะทำให้ร้านค้าหรือแบรนด์จดจำความชอบเฉพาะตัวของลูกค้า หรือพฤติกรรมการซื้อของลูกค้าได้
แต่ในปัจจุบันแนวคิดการตลาดแบบ Personalization นั้นเปลี่ยนแปลงไป ด้วยการใช้ Data Driven เข้ามาเสริม หรือ การตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล นั่นเอง ทำให้สามารถเข้าถึงลูกค้าได้จำนวนมาก แต่ยังคงเข้าถึงลูกค้าแบบเฉพาะเจาะจงรายบุคคลอยู่นั่นเอง
การตลาดแบบ Personalized Marketing คืออะไร มีลักษณะอย่างไร
การตลาดแบบ Personalized Marketing คือ กลยุทธ์การตลาดรูปแบบหนึ่งที่ต้องมีการนำเทคโนโลยีหรือเครื่องมือเข้ามาช่วยสำหรับการวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อให้เข้าใจถึงพฤติกรรมและความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ทำให้สามารถทำโฆษณาหรือแคมเปญการตลาดที่ตรงใจกับกลุ่มเป้าหมาย เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายได้รับรู้แบบ Real-Time จะทำให้เกิดกับการรับรู้ต่อแบรนด์หรือร้านค้าของคุณ
คุณหรือนักการตลาดสามารถนำ Marketing Technology หรือ Martech ไม่ว่าจะเป็นระบบสมาชิก เข้ามาเป็นตัวช่วยเพื่อช่วยเหลือในการจัดเก็บข้อมูล หรือ Data และวัดผลการตลาด วิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายเชิงลึก ทำให้คุณสามารถคาดการณ์พฤติกรรมของลูกค้าในอนาคตได้นั่นเอง ถือเป็นเหมือนการอ่านใจลูกค้าเพื่อให้ลูกค้าอยู่กับเราไปได้อีกนาน
Hyper-Personalized Marketing คืออะไร
Hyper-Personalized Marketing คือ การนำเอา Big Data หรือข้อมูลจำนวนมากมาวิเคราะห์ถึงพฤติกรรมการจับจ่ายสินค้าและบริการของลูกค้า เพื่อทำนายอนาคตว่าลูกค้าท่านนี้ต้องการซื้อสินค้าในช่วงเวลาใด และสามารถใช้กลยุทธ์ใดได้บ้างเพื่อกระตุ้นความสนใจ
Hyper-Personalized Marketing VS Personalized Marketing
Hyper-Personalized Marketing และ Personalized Marketing นั้นมีความต่างกัน ได้แก่
- Hyper-Personalized Marketing นั้นเป็นการใช้ข้อมูลที่ซับซ้อนและลึกลงไปอีกระดับ นอกจากจะสามารถเก็บข้อมูลประวัติการใช้จ่ายแล้ว ยังสามารถนำข้อมูลพฤติกรรมมาวิเคราะห์เพิ่มเติม เพื่อคาดเดาการจับจ่ายสินค้าในครั้งต่อไป
- Personalized Marketing เป็นการใช้ข้อมูลที่คุณมีในมือเป็นหลัก ที่ได้มาจากการเก็บข้อมูลจากบนเว็บไซต์ หรือในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ
Segmentation, Customization และ Personalization แตกต่างกันอย่างไร

Segmentation, Customization และ Personalization มีความแตกต่างกันดังนี้
- Segmentation เป็นการแบ่งกลุ่มของลูกค้าให้จำแนกออกอย่างละเอียดด้วยพื้นฐานข้อมูลที่มี เพื่อให้สามารถทำคอนเทนต์ที่ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากที่สุด
- Customization เป็นการปรับแต่งการตลาดให้ตรงกับความต้องการหรือความสนใจที่เฉพาะเจาะจงของลูกค้า โดยนำข้อมูลมาจากฐานข้อมูลที่มีอยู่ เพื่อให้ตรงกับใจลูกค้านั่นเอง
- Personalization เป็นการรู้ข้อมูลแบบเฉพาะเจาะจงของลูกค้า และมุ่งเน้นการทำการตลาดไปที่ความเฉพาะเจาะจงนั้น เพื่อทำให้ลูกค้ารู้สึกพิเศษและประทับใจ
Personalized Marketing มีกี่ประเภท?
Personalized Marketing มีด้วยกันทั้งหมด 4 ประเภทที่ Rocket เห็นว่าสำคัญและน่าสนใจ จะมีอะไรบ้าง ไปอ่านกันได้เลย
Segmentation
Segmentation คือการแบ่งกลุ่มของลูกค้าออกเป็นหลายๆกลุ่มจำแนกตามความละเอียดให้ละเอียดที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ เนื่องด้วยหากยิ่งละเอียดมากแค่ไหน ก็สามารถทำ Personalization ออกไปได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นเท่านั้น แต่หากแบ่งจนมากเกินไป ก็อาจจะทำให้ไม่สามารถควบคุมจุดคุ้มทุนได้ จนกลายเป็นไม่คุ้มค่า แต่ข้อดีก็คือสามารถปรับแต่งการตลาดได้หลากหลายกลุ่มอย่างละเอียด เพื่อให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าที่อยู่ภายในกลุ่มนั้นๆ ส่งผลให้เกิดการกระตุ้นอย่างตรงจุดและยอมจ่ายเงินให้กับคุณ
1-to-1 Personalization
1-to-1 Personalization เป็นการใช้เทคโนโลยีอย่าง Martech เข้ามาเป็นตัวช่วยในมการรวบรวมข้อมูลของลูกค้า หรือการสื่อสารระหว่างลูกค้ากับคุณแบบ Real time และนำมาประมวลผลผสานกับข้อมูลที่มีอยู่ก่อนแล้ว สามารถดูได้ว่าลูกค้าคนนี้อ่านหน้าเว็บไซต์หน้าไหน และใช้ระยะเวลาเท่าไหร่ ทำให้เห็นได้ถึงความสนใจหรือความต้องการ นอกจากนี้ยังบอกได้ว่าลูกค้าเข้าชมผ่านอุปกรณ์ใด
โดยข้อมูลทั้งหมดจะถูกรวบรวมนำมาประมวลผลวิเคราะห์ออกมาเพื่อทำให้ Personalized Experiences ดีที่สุด และเพื่อให้คุณสามารถทำ Personalized Marketing Campaign ออกมาได้อย่างตรงใจลูกค้า
Personalized content marketing
Personalized content marketing เป็นการส่งคอนเทนต์การตลาดแบบเฉพาะเจาะจงไปตามความสนใจ ความชอบ ความต้องการของลูกค้า เพื่อให้เกิดแรงจูงใจที่ตรงจุดตรงใจลูกค้า โดยอาจจะส่งผ่านอีเมลหรือช่องทางโซเชียลมีเดียต่างๆอย่าง LINE ก็ย่อมได้เช่นกัน
Personalized email marketing
การทำการตลาดผ่านอีเมลเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม เพราะพฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้คนในปัจจุบันนั้นอยู่กับอุปกรณ์อย่าง สมาร์ทโฟน หรือ คอมพิวเตอร์ แทบจะตลอดเวลา เพราะฉะนั้นการทำการตลาดแบบเฉพาะเจาะจงผ่านอีเมล ย่อมเป็นช่องทางที่ดีและมีประสิทธิภาพสูง สามารถเอ่ยชื่อของลูกค้า อวยพรวันเกิด หรือแจ้งสิทธิพิเศษต่างๆ
ความสำคัญของ Personalized Marketing ต่อการตลาด

ในปัจจุบันการทำการตลาดเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนเป็นอย่างมาก จากที่ต้องมีการโทรหาลูกค้า หรือเคาะประตูตามบ้านเพื่อให้ได้ข้อมูล ก็ถูกเปลี่ยนเป็นการใช้เทคโนโลยีในการช่วยเก็บข้อมูลต่างๆด้วยช่วยทางออนไลน์ ส่งผลให้แผนการตลาดมีความก้าวหน้า และตอบโจทย์ผู้บริโภคในยุคนี้ได้มากกว่า
ทั้งยังสามารถเข้าหาลูกค้าจำนวนมากได้พร้อมกัน แต่ยังคงไว้ซึ่งประสิทธิภาพไว้ดังเดิม แต่ตัดปัญหาเรื่องของเวลา เพราะเครื่องมือการตลาดสามารถช่วยคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ และขายได้อีกด้วย
ประโยชน์ของ Personalized Marketing
Personalized Marketing ส่งผลดีกับแบรนด์หรือธุรกิจของคุณในระยะยาวแบบยั่งยืน เป็นผลมาจากการวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้มานั้นสดใหม่อยู่เสมอ ส่งผลให้สามารถทำคอนเทนต์ออกไปได้ตรงใจกับกลุ่มเป้าหมาย
ประโยชน์ของ Personalized Marketing ได้แก่
- เข้าถึงลูกค้าได้ด้วยคตอนเทนต์ที่ตรงตามความต้องการ
- ลดทอนโอกาสที่ลูกค้าจะหันไปหาคู่แข่ง
- รักษาลูกค้า สร้าง Customer Loyalty ทั้งกับลูกค้าเก่าและใหม่ ในระยะยาว
- มียอดขายเพิ่มขึ้น เมื่อเสนอผลิตภัณฑ์ได้ตรงกับใจของกลุ่มเป้าหมาย
- ใช้ข้อมูลในการคาดการณ์ความต้องการของลูกค้า
- ส่งต่อประสบการณ์ที่ดีและน่าประทับใจให้แก่ลูกค้า
- เชื่อมโยงแพลตฟอร์มออนไลน์ได้หลากหลาย
- ทำให้เกิดการรับรู้ และสร้างความเชื่อมั่นให้กับแรนด์หรือธุรกิจ
ขั้นตอนการทำ Personalized Marketing
ขั้นตอนการทำ Personalized Marketing สามารถแบ่งออกให้เป็น 4 ขั้นตอนได้ ดังนี้
1. เก็บข้อมูลลูกค้า
สิ่งที่สำคัญที่สุดของการทำ Personalized Marketing คือ การที่คุณมีข้อมูลของลูกค้า ทั้งข้อมูลพื้นฐาน ข้อมูลพฤติกรรม และข้อมูล Big Data ต่อด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลเหล่านั้นด้วยเครื่องมือ โดยสามารถเก็บข้อมูลได้มากมายหลายที่ เช่น ระบบสมาชิก membership program
2. ทำ Personalized Persona
ต่อจากการรวมข้อมูลทั้งหมดของลูกค้า ก็ต้องมีจัดทำ Persona แบบเฉพาะเจาะจงอย่างละเอียดเป็นรายบุคคล มีทั้งข้อมูลเบื้องต้น ความชอบความสนใจ พฤติกรรมต่างๆ เพื่อนำข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ประโยชน์ต่อได้โดยง่าย
3. ทำ Content
เมื่อคุณมีข้อมูลที่ถูกแบ่งจำแนกเป็นอย่างดี ย่อมทำให้คุณสามารถผลิตคอนเทนต์ที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายหรือลูกค้าแต่ละคนได้โดยง่าย และสามารถทำคอนเทนต์ออกมาได้อย่างตรงใจตรงตามความต้องการของลูกค้า และมีการสร้างปฏิกิริยาตอบกลับเพื่อดึงดูดให้ลูกค้าอุดหนุนคุณ
4. ทดสอบและวัดผลลัพธ์
ท้ายที่สุดเฉกเช่นการตลาดในทุกๆรูปแบบ ไม่เว้นแม้แต่ Personalized Marketing คือการทดสอบและเก็บข้อมูลของคอนเทนต์การตลาดที่ได้มีการปล่อยออกไป และนำมาวิเคราะห์ถึงผลลัพธ์เพื่อนำไปปรับปรุงพัฒนาต่อไป เพื่อให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด
เครื่องมือในการทำ Personalized Marketing
เครื่องมือในการทำการตลาดแบบเฉพาะเจาะจง หรือ personalized marketing tools นั้นจำเป็นต่อการทำการตลาดในรูปแบบนี้เป็นอย่างมาก เพราะต้องนำมาใช้ทั้งการวัดผล การวิเคราะห์ การเก็บข้อมูลของลูกค้า รวมไปถึงเครื่องมือที่ช่วยในการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้า
- เครื่องมือที่ช่วยเหลือในการวิเคราะห์หรือ Analytics Platforms ที่จะช่วยวิเคราะห์ตัวตนและพฤติกรรมของลูกค้าแบบเฉพาะบุคคล ช่วยให้สามารถคาดเดาพฤติกรรมของลูกค้าในอนาคตได้
- ระบบสมาชิก ที่เป็นเครื่องมือในการช่วยจัดเก็บข้อมูลของลูกค้า ทั้งข้อมูลเบื้องต้นอย่าง ชื่อ นามสกุล เพศ อายุ วันเกิด รวมไปถึงพฤติกรรมของลูกค้าและความชอบความสนใจของลูกค้า
- ระบบ CRM หรือ Customer Relationship Management เครื่องมือที่จะช่วยให้คุณมีความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้า ช่วยบริหารความสัมพันธ์ในระยะยาว เปลี่ยนจากลูกค้าธรรมดาให้กลายมาเป็นลูกค้าประจำที่มีความภักดีต่อคุณ
ตัวอย่างการทำ Personalized Marketing
Rocket ขอยกตัวอย่างแบรนด์ที่ทำ Personalized Marketing ให้ผู้อ่านสัก 3 แบรนด์ เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

1. Netflix
หลายๆท่านน่าจะเป็นลูกค้าประจำของบริษัท Streaming ยักษ์ใหญ่อย่าง Netflix และคงเคยพบเห็นการทำ Personalized Marketing ของ Netflix ด้วย ทั้งการที่เจอภาพยนตร์หรือภาพยนตร์ชุดตามประเภทที่คุณชื่นชอบตั้งแต่หน้าแรก นอกจากนี้ยังมีการแนะนำภาพยนตร์ใหม่ๆที่จะเข้ามาและมีแนวโน้มว่าคุณน่าจะชอบเรื่องเหล่านั้นด้วยผ่านทางอีเมล โดยอิงมาจากการวิเคราะห์ประวัติในการดูหรือการค้นหาที่ผ่านมานั่นเอง

2. Spotify
อีกหนึ่งแบรนด์ Entertainment ที่ใช้ Personalized Marketing นั่นก็คือ Spotify ผู้ให้บริการ Streaming เพลง ที่สามารถทำการตลาดประเภทนี้ได้อย่างดี ผู้ใช้งานล้วนติดใจ เพราะจะมีการแนะนำลิสต์เพลงและเพลย์ลิสต์ต่างๆ ตามประวัติแนวเพลงที่คุณเคยฟัง และมีการจัดสรรเพลงมาให้อย่างหลากหลาย และยังมีการหยิบยกข้อมูลการฟังเป็นรายปีของลูกค้ามาทำคอนเทนต์เพื่อให้ลูกค้ามีการแชร์ต่อ จะเกิดเป็นไวรัลเลยทีเดียว

3. Shopee
มาต่อกันด้วยแพลตฟอร์มที่ขาช้อปต้องไม่พลาดอย่าง Shopee ผู้ให้บริการ E-commerce สีส้มชื่อดังที่ใช้ Personalized Marketing ในการทำการตลาดอย่างหนักหน่วงเช่นเดียวกัน ทั้งการเสนอสินค้าในประเภทที่คุณสนใจ และแนบโปรโมชันสำหรับสินค้านั้นๆเพื่อกระตุ้นให้คุณอยากจะซื้อนั่นเอง ทั้งยังส่งแจ้งเตือนอย่างหลากหลายรูปแบบ และการใช้รถเข็น หรือ Cart ในการเก็บข้อมูลสิ่งที่ลูกค้าสนใจ และแนะนำสินค้าที่คุณอาจจะสนใจอีกด้วย นับว่าได้ผลดีที่เดียวสำหรับการทำการตลาดนรูปแบบนี้
สรุปเกี่ยวกับ Personalized Marketing
การทำการตลาดแบบ Personalized Marketing เป็นอีกหนึ่งสุดยอดกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับโลกยุคปัจจุบันที่เทคโนโลยีและข้อมูลเข้าถึงได้ง่ายและหลากหลายช่องทาง สามารถดึงเอาข้อมูลเหล่านั้นมาทำการตลาดได้อย่างไม่รู้จบ เพื่อตอบสนองให้ตรงตามความต้องการและความสนใจของลูกค้าแบบเฉพาะเจาะจงเป็นรายบุคคลไป ช่วยกระตุ้นให้ลูกค้ามาอุดหนุนได้อย่างดี และที่สำคัญ Personalized Marketing ด้วย https://www.rocket.in.th/membership-crm/ ควรทำควบคู่ไปกับเครื่องมือทางการตลาดที่มีคุณภาพ จะยิ่งส่งเสริมให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นยิ่งไปอีก
หากคุณสนใจการทำการตลาดในรูปแบบ Personalized Marketing ก็สามารถติดต่อ Rocket Digital เพราะเรามีบริการ รับทำการตลาดออนไลน์ และ รับยิงแอด พร้อม Software Martech สุดทันสมัยของ Rocket ที่จะช่วยเก็บข้อมูลให้คุณและยังรักษาสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง
Rocket Loyalty CRM
เพิ่มยอดขายและลูกค้าประจำด้วย Rocket Loyalty CRM บริหารและแบ่งระดับสมาชิก สร้างของรางวัล คูปองและกระตุ้นยอดขาย ประทับใจลูกค้าไม่แพ้บริษัทยักษ์ใหญ่